เมื่อพูดถึง Work-Life
Balance หลายๆ ท่านอาจสงสัยคำนิยามว่าคืออะไร Work-Life
Balance คือ
การสร้างสมดุลในการทำงานและให้ความสำคัญกับชีวิตส่วนตัวและสุขภาพของตัวเองมากขึ้นไปพร้อม
ๆ กัน
เพราะเรามีเวลา 24 ชม. ใน 1 วันที่เท่ากัน ถ้าใครรู้จักการจัดสมดุลชีวิตได้ดีกว่า
คนนั้นก็จะย่อมมีความสุขกับการทำงานและการใช้ชีวิตที่มากกว่า วันนี้ผู้เขียนมีเทคนิคง่าย ๆ
ที่จะช่วยให้คนทำงานอย่างคุณสามารถจัดการชีวิตตัวเองให้มี Work-Life Balance ในแบบของตัวเองได้มาฝากใน 5 วิธี เท่านั้น
แบ่งเวลาให้เป็น
การใช้เวลาส่วนใหญ่ของวันหมดไปกับการทำงาน
ไม่ได้หมายความว่าใช้เวลาได้คุ้มค่าที่สุด
เพราะการใช้เวลาที่เหมาะสมนั้นคือคนที่สามารถจัดสรรเวลาได้อย่างลงตัว
อาจวิธีการบริหารเวลาแบบ 8:8:8 เกิดขึ้นโดย Robert Owen นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นสูตรการจัดการเวลาในชีวิตที่ไม่ต่างอะไรกับช่วงเวลาปกติของการออกไปที่ทำงาน โดยแบ่งออกเป็น 8 ชั่วโมงสำหรับการนอนหลับ 8 ชั่วโมงสำหรับการทำงาน และ 8 ชั่วโมงสำหรับการพักผ่อน
จัด To-do List ที่จะทำในแต่ละวัน
เพื่อลดการผิดพลาดจากการทำงาน จึงควรจด To-do List เพื่อกำหนดขอบเขตและเป้าหมายของงานที่จะทำในแต่ละวัน
ซึ่งการทำแบบนี้จะเชื่อมโยงกับความรู้สึกได้เนื่องจากเมื่อเราทำบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ
ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุข (Dopamine) ที่ช่วยกระตุ้นให้เรามีกำลังใจและพลังในการทำเป้าหมายอื่นๆ
ต่อไป และจะทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองนั่นเอง
ทำงานให้เสร็จและเลิกงานตามปกติ
แบ่งการเลิกงานให้ชัดเจน
ถ้าถึงเวลาเลิกงานและไม่มีงานค้างและงานสำคัญอะไรก็ให้ปิดคอมพิวเตอร์ จัดโต๊ะทำงาน
เก็บของสักเล็กน้อย แล้วลุกออกจากโต๊ะทำงานเหมือนกับเวลาเลิกงานตามปกติ
ทำสิ่งที่ตัวเองมีความสุข
ให้เวลากับตัวเอง
ทำในสิ่งที่คุณชอบและสนุกหรือมีความสุขไปกับมัน โดยไม่ต้องให้เวลาหรือ To-do
List ต่าง ๆ มาจำกัดขอบเขต เช่น การออกไปทานอาหารค่ำ อ่านหนังสือ
ดูทีวี หรือนอนกลิ้งอยู่บนโซฟา รวมไปถึงการปิดการติดต่อที่ไม่จำเป็นต่าง ๆ ด้วย
สุขภาพดีไม่มีขาย
ทุกวันนี้มีคนมากมายให้ความสำคัญกับเงิน และมองว่าเงินคือตัวแปรสำคัญในการดำเนินชีวิต ทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อเงินจนลืมใส่ใจสุขภาพ จงอย่าลืมว่าร่างกายคือต้นทุนอย่างหนึ่งในการใช้ชีวิต อย่ามัวแต่ทำงานหนักจนลืมหันมารักตัวเอง ให้รางวัลตัวเองด้วยอาหารดีๆ ให้ตัวเองได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ และสุดท้ายให้ตัวเองได้มีสุขภาพที่แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย
0 Comments